Privacy Policy
Debt Collection Business Office
Win Performance Co., Ltd.
นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท วินเพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด ผู้ให้บริการงานด้านติดตามทวงถามหนี้ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจและความไว้วางใจในการบริหารจัดการที่เชื่อถือได้ โดยนโยบายนี้ อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และเพื่อให้ได้รับทราบ จึงจัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท ดังต่อไปนี้
ขอบเขต
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ครอบคลุมการปฏิบัติ และมาตรการจัดการด้านความปลอดภัยของบริษัทเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และประมวลผลข้อมูลตามวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูลสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง วิธีการติดต่อบริษัท ตลอดจนสามารถนำไปปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
คำจำกัดความ
“บริษัท” | หมายความว่า | บริษัท วินเพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด |
“ข้อมูลส่วนบุคคล” Personal Data | หมายความว่า | ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม |
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” Data Subject | หมายความว่า | บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ลูกค้า คู่สัญญา และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ บุคลากรของบริษัท อดีตพนักงาน และผู้สมัครงาน รวมถึง ผู้เข้าชมและใช้เว็บไซต์ของบริษัท |
“การประมวลผล” Processing | หมายความว่า | การปฏิบัติการ หรือส่วนหนึ่งของการปฎิบัติการซึ่งได้กระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีอัตโนมัติหรือไม่ ได้แก่ การเก็บรวบรวม การแก้ไข การบันทึก การจัดเรียบเรียง การเก็บรักษา การเรียกดู การนำกลับมาใช้ใหม่ การพิมพ์ การทำให้เข้าถึง การส่ง การจัดวางให้ถูกตำแหน่ง การจำกัด การลบ การทำลาย รวมถึงการจัดทำ การเปิดเผยและรายงานเชิงสถิติ |
การเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงและบุคคล/นิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัท ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้
- การปฏิบัติงานของบริษัท โดยการรับข้อมูลจากการให้บริการและ/หรือรับบริการตามขอบเขตการให้บริการตามสัญญาและบันทึกข้อตกลงต่างๆ ได้แก่ ลูกค้า คู่สัญญา คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท เป็นต้น
- การเก็บข้อมูลโดยความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ บุคลากรของบริษัท กรรมการ ผู้บริหารพนักงาน ลูกจ้าง นักศึกษาฝึกงาน ผู้ฝึกงาน อดีตพนักงาน รวมถึง ผู้สมัครงาน เป็นต้น
- การเก็บข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากการเข้าชมและใช้เว็บไซต์ของบริษัท
- การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอก บริษัทอาจได้รับข้อมูลจากบุคคลภายนอกเป็นครั้งคราว ได้แก่ การจัดหางาน การติดตามทวงถามหนี้ เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมและอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้กับบริษัทโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับมาจากผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับบริษัทดังนี้
- ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อนามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ รูปถ่าย หรือบัตรประจำตัวประชาชน ลายมือชื่อ สัญชาติ สถานภาพสมรส และข้อมูลส่วนบุคคลในครอบครัว
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ ศาสนา ข้อมูลสุขภาพ / ผลการตรวจสุขภาพ เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลการติดต่อทางโซเชียลมีเดีย และรายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน หรือบุคคลอ้างอิง เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน ได้แก่ หมายเลขบัญชีธนาคาร และข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากรต่างๆ ภาระหนี้ค้างชำระ และข้อมูลเกี่ยวกับการค้างชำระหนี้ เป็นต้น
- ข้อมูลด้านเทคนิค ได้แก่ ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์และระบบต่างๆ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลการติดต่อและสื่อสารระหว่างเจ้าของข้อมูลและผู้ใช้งานรายอื่น ข้อมูลจากการบันทึกการใช้งาน เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์ รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกระบบต่างๆ หรือเว็บไซต์ที่มีการเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้ระบบข้อมูลบันทึกเวลาเข้าออกสำนักงาน ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน สถิติการเข้าระบบ เวลาที่เยี่ยมชมระบบ (Access Time) ที่ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายกัน
- ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม การประเมินผล และการปฏิบัติงาน ได้แก่ ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม หนังสือรับรองคุณวุฒิ หรือใบแสดงผลการศึกษา ผลคะแนน หรือระดับคะแนน ระดับการศึกษา ความสามารถทางภาษา ข้อมูลใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพ เลขที่ทะเบียน วันเริ่มอายุทะเบียน วันที่หมดอายุทะเบียนข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ วันที่เริ่มงาน ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบ วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร ประวัติการทำงาน (ตำแหน่งงาน ชื่อนายจ้าง ระยะเวลาการทำงาน) เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน และเงินรางวัล การประเมินผลการทำงานข้อมูลทางวินัยข้อมูลการลาประเภทต่างๆ เป็นต้น
- ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ บันทึกภาพและ/หรือเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงการสนทนา การร้องเรียน / การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และภายใต้วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
- เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติ และจัดทำรายงานสารสนเทศ
- เพื่อปรับปรุง หรือพัฒนาการให้บริการ และระบบงานต่างๆ
- เพื่อจัดการเรื่องร้องเรียนต่างๆ และตามคำขอเรียกร้องสิทธิ
- เพื่อการกำกับตรวจสอบ หรือการควบคุม และการรักษาความปลอดภัย
- เพื่อบริหารความเสี่ยง และป้องกันความเป็นไปได้ที่จะมีการทุจริต
- เพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
- เพื่อการจัดการด้านเทคนิคของเว็บไซต์ และการใช้งานผ่านระบบสารสนเทศต่างๆ
- เพื่อดำเนินการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล หรือด้านการเงิน
- เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างให้ได้มาถึงสินค้าและบริการ รวมถึง การชำระเงิน หรือเรียกเก็บเงิน
- เพื่อการติดต่อสื่อสาร หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการติดตามทวงถามหนี้
- เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และเกี่ยวข้องกับที่ได้ระบุไว้ข้างต้น
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และบันทึกเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และจะไม่กระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
- ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
- เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
เหตุใดบริษัทต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการและดำเนินการทั้งหมด โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลด้วยเหตุผล (ฐานในการประมวลผลข้อมูล) ซึ่งอาจจะอาศัยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง หรือหลายเหตุผลประกอบกัน ดังนี้
- ฐานความยินยอม (Consent) เป็นการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ
- ฐานสัญญา (Contract) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
- ฐานการปฏิบัติตามกฏหมาย (Legal Obligation) เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฏหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน กฎหมายภาษีอากร กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายอื่นๆ ที่จำเป็นต้องปฎิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฏหมาย ดังกล่าว
- ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest) เพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่เจ้าของข้อมูลสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ได้แก่ การบริหารจัดการความเสี่ยง การตรวจสอบภายใน การดูแลรักษาระบบเพื่อการรักษามาตรฐาน การให้บริการ เป็นต้น
สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ดังนี้
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึง ขอให้เปิดเผยการได้รับมาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม
- สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง โดยขอให้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ หากเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือเห็นว่าหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง
- สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ เมื่ออยู่ระหว่างการตรวจสอบ ตามที่ได้ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรืออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ หรือการตรวจสอบตามคำขอใช้สิทธิในการคัดค้านของเจ้าของข้อมูล
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถคัดค้านในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล
- สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลสามารถขอให้ถ่ายโอน หรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่น ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้
- สิทธิในการขอถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลสามารถขอให้ถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย
- บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลโดยเร็วภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวข้างต้นเป็นไปตามกฎหมายกำหนด
มาตราการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ และข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ โดยการกำหนดมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงบริหารจัดการ วิธีปฏิบัติและสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมให้บุคลากร ตัวแทนหรือผู้แทนที่กระทำในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคล ตระหนักรู้ถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยบุคลากรและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามนโยบาย และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทกำหนดไว้อย่างเหมาะสม
การพัฒนาและการคงไว้ซึ่งมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และคงไว้ซึ่งมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมทั้งให้ความรู้และฝึกอบรมให้แก่บุคลากรตัวแทนหรือผู้แทนที่กระทำในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคล หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทกำหนดให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือตัวแทนหรือผู้แทนที่กระทำในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคล ของบริษัท ทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัทอย่างสม่ำเสมอ รวมถึง ประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง ขอบเขตการให้บริการ สัญญา และนโยบาย ตลอดจนบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ประกาศใช้อย่างเคร่งครัด
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด และตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดดังต่อไปนี้
- บุคลากรของบริษัท ได้แก่ กรรมการ ผู้บริหาร ตัวแทนหรือผู้แทนที่กระทำในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคล ลูกจ้าง หรือบุคคลเท่าที่เกี่ยวข้องและจำเป็นตามภาระหน้าที่ เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- บุคคลและนิติบุคคลอื่น (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ได้แก่ ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการและทำหน้าที่ภายใต้การควบคุมของบริษัท (การทวงถามหนี้ การจัดพิมพ์ การให้บริการ ประมูลขายทรัพย์สิน การจัดการด้านทรัพยากรบุคคลและสวัสดิการ) ผู้ให้บริการขนส่ง (ไปรษณีย์) ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ระบบ Cloud ระบบเว็บไซต์ บริการส่ง SMS บำรุงรักษาและการพัฒนาระบบสารสนเทศ) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน (ธนาคาร บริษัทรับชำระเงินแทน) บริษัทประกัน ผู้ตรวจสอบ ที่ปรึกษา เป็นต้น
- หน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจในการกำกับดูแล ได้แก่ คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น หรือการพิจารณาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาคดี การบังคับคดี และการวางทรัพย์ การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เป็นต้น
- บริษัทกำหนดให้หน่วยงาน หรือ ตัวแทนหรือผู้แทนที่กระทำในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคล ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของเจ้าของข้อมูลอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ กรณีบริษัทมีการโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการจัดเก็บรวบรวมในต่างประเทศ ได้แก่ Cloud Computing, Line, Facebook เป็นต้น ซึ่งอาจมีที่ตั้ง หรืออาจให้บริการอยู่ใน หรือนอกประเทศไทย บริษัทจะคัดเลือกผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยประเทศปลายทางที่ได้รับข้อมูลต้องมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย
ระยะเวลาการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลนั้น และอาจเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตให้มีระยะเวลาเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
- จัดให้มีระบบการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อพ้นกำหนดระยะการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
- กรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยขอความยินยอม จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าเจ้าของข้อมูลจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทดำเนินการตามคำขอเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกประวัติว่าเจ้าของข้อมูลเคยขอยกเลิกความยินยอม เพื่อให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อคำขอของเจ้าของข้อมูลในอนาคตได้
การติดต่อบริษัท
บริษัทจัดให้มีช่องทางการติดต่อกับบริษัท และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่มีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือประสงค์จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล หรือถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถติดต่อได้ที่
บริษัท วินเพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด
เลขที่ 1768 ชั้น 6 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร.02-1236535-45, www.winperform.com
หรือติดต่อ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่าน E-mail: dpo@winperform.com
ทั้งนี้ หากเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การทบทวน และปรับปรุงนโยบาย
บริษัทอาจมีการพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลและเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีสาระสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึง การแก้ไข เปลี่ยนแปลงที่สำคัญใดๆ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท www.winperform.com หรือช่องทางที่เหมาะสม
ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 7
ประกาศเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564
กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ประสงค์จะใช้สิทธิถอนความยินยอมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
โปรดกรอกรายละเอียดตามเอกสารแบบคำขอนี้
กรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ประสงค์จะใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้แก่สิทธิดังต่อไปนี้ โปรดกรอกรายละเอียดตามแบบคำขอนี้
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
- สิทธิในการลบข้อมูล
- สิทธิในการระงับใช้ข้อมูล
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล
- สิทธิในการโอนย้ายข้อมูล